เทน ฮาก ก็ตัดสินใจเปลี่ยน แรชฟอร์ด

หลังมีสกอร์เพิ่ม เทน ฮาก ก็ตัดสินใจเปลี่ยน แรชฟอร์ด

ออกไปพัก รวมถึง แฟร์นันด์ส ด้วยเพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาตัวสำรองได้ลงบู๊ และไม่ได้ส่งผลเสียต่อทีมเลยแม้แต่น้อยเนื่องจาก ผีแดง มั่นใจเต็มเปี่ยมแล้วหลังนำหน้าไปไกลลิบด้วยสกอร์รวม ขณะที่ เบติส ดูจะหมดอาลัยตายอยากไม่อาจทำเกมรุกได้อีก แถมเกือบเสียประตูเพิ่มหลายครั้งด้วยรวมแล้วในช่วงครึ่งหลัง ยิ่งเล่นทีมของ เปเยกรินี่ ก็ยิ่งแย่กระทั่งครบ 90 นาทีจึงแพ้คาบ้านตามระเบียบจากสถิติที่เป็นรองทุกด้านทั้งการครองบอล 54:46%

และโอกาสยิงประตูซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แซงหน้าไปได้จาก 17:15 ครั้ง และเข้ากรอบมากกว่า 4:2 ครั้งหากไม่มี แรชฟอร์ด สักคน รวมถึงประตูโทนของสตาร์ผิวสี เบติส ก็น่าจะยังมีลูกฮึดสู้ต่อ แต่ในเมื่อมาเจอทีเด็ดของหัวหอกฟอร์มฮ็อตเล่นงานเป็นซ้ำสองเหมือนเกมแรกที่เขายิงประตูได้เช่นกัน ทีมจากเมืองกระทิงก็ถึงกับยกธงขาวทันทีนับจนถึงขณะนี้ แรชฟอร์ด ดูบอล ยังคงกระทุ้งประตูได้เป็นว่าเล่นต่อไป และมันเป็นประตูที่หกจากแปดเกมหลังของเขา หรือเป็นประตูที่ 27 ของซีซั่นเข้าไปแล้วขณะเดียวกัน หากจะนับเฉพาะประตูในฟุตบอลถ้วยยุโรป พ่อค้าแข้งวัย 25 ปีกดเพิ่มได้เป็น 25 ประตูแซงนำผลงานของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตดาวดังของสโมสรขึ้นสู่อยู่ในทำเนียบอันดับหกแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้นไม่พอ แรชฟอร์ด ยังมีสถิติตามหลัง พอล สโคลส์ แค่ประตูเดียวด้วยจึงเชื่อขนมกินได้เลยว่าเขาจะทำลายสถิติของอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ได้อีกราย ขณะที่เจ้าของสถิติสูงสุดในข่ายนี้ได้แก่ เวย์น รูนีย์ ที่กระทุ้งไปได้ 39 ประตู

แมนฯ ยูไนเต็ด เดินทางมายังดินแดนกระทิงดุด้วยความได้เปรียบบานเบอะ

เนื่องจากเกมแรกที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ลูกทีมของกุนซือเอริค เทน ฮาก สามารถเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 1-4สำหรับแมตช์นี้ทีมเยือนเล่นแบบไร้ความกดดัน และมาได้ประตูชัยในช่วงครึ่งหลังจากหัวหอกเจ้าเดิม มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่งให้ทีมคว้าชัยชนะไปแบบเบาๆ พร้อมทั้งเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 5-1แม็กไกวร์ กล่าวว่า “ผมทำงานหนักมากในช่วงซ้อม และผมทุ่มเททุกอย่าง แน่นอนว่าผมอยากลงเล่นให้มากกว่านี้ และได้ลงตัวจริงมากขึ้น

แต่ผมก็ทำหน้าที่ในส่วนของผมทั้งในและนอกสนาม””มันเป็นเรื่องดีที่ได้เป็นผู้นำทีม (กัปตันทีม) ผมได้รับบทบาทสำคัญทั้งในและนอกสนามที่สโมสรแห่งนี้ และทุกๆ วันผมพยายามที่จะทำให้สโมสรแห่งนี้ประสบความสำเร็จไม่ว่าผมจะได้ลงเล่นหรือไม่ก็ตาม””มันเป็นสองเกมที่ดีเยี่ยม เบติส เป็นทีมที่เก่งดังนั้นเรารู้ว่ามันไม่ใช่ผลการจับสลากที่ง่ายเอาซะเลย เรารู้ว่าช่วง 20 นาทีแรกพวกเขาต้องบุกเข้าใส่เรา เราคาดคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าพวกเขาคงเริ่มต้นด้วยการเล่นเร็ว แต่เรารู้ว่าถ้าเราไม่เสียประตู งานของเราก็จะสำฤกษ์ผล” แม็กไกวร์ ระบุแฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจหลังได้รับโอกาสลงตัวจริงในเกมช่วยทัพ “ปีศาจแดง” บุกชนะ เรอัล เบติส 1-0 ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาเบติส ที่นัดแรกบุกไปพ่ายยับ 1-4 ออกสตาร์ทเกมได้ดี และมีโอกาส แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูได้ และสุดท้ายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด

ที่มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 56 จากลูกยิงไกลสุดสวยของ มาร์คัส แรชฟอร์ด “เราตกรอบไปอย่างขมขื่น เรามีสกอร์ตามหลังอยู่เยอะ แต่เราก็อยากทำประตูให้ได้ตั้งแต่ต้นเกม เรามีโอกาสหลายครั้ง พวกเขามีหนเดียวและก็ทำได้ทันที ความแตกต่างระหว่างสองทีมนี้คือ พวกเขามีงบประมาณมากกว่าเราเป็นสิบเท่า เราโชคไม่ดีที่ต้องมาเจอกับพวกเขา เราแพ้ให้กับทีมที่เหนือกว่า”