ศึกเอฟเอ คัพ ในบ้านตัวเอง
ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังอยู่ในช่วงยากลำบากสำหรับการป้องกันแชมป์ลีก
หลังจากพวกเขาประสบปัญหาฟอร์มฝืดนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023 โดยสองในห้าเกมจะต้องดวลกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมที่เคยดับซ่าพวกเขามาแล้วทั้งเหย้า และเยือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานอกจากนี้ยังต้องพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และการดวลกับ อาร์เซน่อล ในศึกเอฟเอ คัพ ในบ้านตัวเอง
จากนั้นก็ต้องไปเยือน สเปอร์ส ตามด้วยการเปิดบ้านรับมือ แอสตัน วิลล่า ซึ่งพวกเขาเคยโดนนำ 2-0 แต่พลิกนรกกลับมาแซงชนะ 3-2 คว้าแชมป์ลีกในแมตช์สุดท้ายเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาทัพ "ทูน อาร์มี่" ยังคงทำผลงานได้แบบยอดเยี่ยม แม้พวกเขาอาจจะดูเหมือนเป็นม้านอกสายตาในการลุ้นแชมป์ลีกก็ตาม แต่ฟอร์มของ "สาลิกาดง" ถือว่ายอดเยี่ยมโดยเฉพาะเกมรับค่อนข้างจะเหนียวแน่นแข็งแกร่งเลยทีเดียวทีมของกุนซือเอ็ดดี้ ฮาว จะต้องลงสนามเกม คาราบาว คัพ ดูบอล รอบรองชนะเลิศ 2 แมตช์ โดยจะปะทะกับ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ดูบอล นอกจากนี้พวกเขายังมีเกมลีกพบกับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 4 ก.พ. ตามด้วยการเดินทางไปสู้กับทีมหนีตกอย่างอย่าง บอร์นมัธทีมของกุนซือเอริค เทน ฮาก จะต้องเดินทางไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในวันพุธนี้ ซึ่งเป็นโปรแกรมตกค้างที่เลื่อนมาจากเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ต้องเจอเกมใหญ่เยือน อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์ ก่อนจะสลับมาลงสนามในเกมฟุตบอลถ้วยแมนฯ ยูไนเต็ด
จะต้องลงสนามเหย้า-เยือนดวลกับ "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ
นอกจากนี้ยังมีเกม เอฟเอ คัพ พบกับ เรดดิ้ง ซึ่งมี พอล อินซ์ ตำนานมิดฟิลด์พันธุ์ดุ "ผีแดง" ทำหน้าที่กุมบังเหียนสาวก "เดอะ ค็อป" คงโล่งอกอยู่บ้าง หลัง ลิเวอร์พูล สามารถบุกชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับ
เปลี่ยนผู้หลายตำแหน่ง แต่กลายเป็นว่าแข้งสำรองทำผลงานได้ดี เล่นด้วยความดุดัน และมีระเบียบวินัย โดยชัยชนะในเกมนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของ "หงส์แดง" พอสมควร และทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการปะทะกับ เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์นี้ไม่ค่อยได้ทำงานมากนักในช่วงครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลังต้องออกแรงหลายครั้งแต่ก็ไม่ใช่จังหวะยากลำบากมากนัก จุดเด่นคือการเล่นที่นิ่ง ไม่หวาดหวั่นแม้ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันอายุเป็นเพียงตัวเลข เล่นด้วยความกระตือรือร้น มีโอกาสพร้อมวิ่งขึ้นไปเติมเกมบุก ส่วนเกมรับมีความเหนียวแน่นแทบไม่มีจังหวะผิดพลาดทั้งตอนที่เล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ก หรือขยับไปยืนแบ็กขวา เคลียร์บอลเด็ดขาด เข้าสกัดแม่นยำถือเป็นฟอร์มที่โดดเด่นมากๆ ในเกมนี้ จังหวะการเคลียร์ลูกโด่งแม่นยำ ยืนตำแหน่งดี ไม่มีเข้าบอลโฉ่งฉาง มีโอกาสมักดันเกมสูงเพื่อช่วยเกมบุกเจอกับงานสุดหินในการดวลกับ อดาม่า ตราโอเร่ ความแข็งและความรวดเร็วยังเป็นรองแข้งร่างบึ้กชาวสแปนิช แต่ก็ถือว่าสู้ได้ดีแม้จะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างก็ตามฟอร์มฉายแววดีมีอนาคตกับลิเวอร์พูล
ทำหน้าที่คุมจังหวะเกมได้สุดยอด ครองบอลเหนียวแน่น เล่นด้วยความนิ่งทั้งๆ ที่อายุแค่ 18 ปี สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์กดดันได้มุ่งมั่นกระตือรือร้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และพยายามฉกฉวยโอกาสกับการได้เป็นตัวจริง มีระเบียบวินัยในการเล่น ไม่ทิ้งพื้นที่ตัวเอง ที่สำคัญสามารถเล่นได้จนจบเกมโดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บ

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น